ชป. (กรมชลประทาน) ได้ดำเนินโครงการ “คืนคลองใส” อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางน้ำให้กลับคืนสู่สภาพที่เหมาะสม สนับสนุนการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตรกรรม และการป้องกันปัญหาน้ำท่วม รวมถึงการรักษาสมดุลของแหล่งน้ำธรรมชาติ การดำเนินการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน และสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้งที่ปริมาณน้ำมีจำกัดและมีความต้องการใช้น้ำสูง
ประเด็นสำคัญจาก: ชป. เดินหน้า “คืนคลองใส” เร่งกำจัดผักตบ–วัชพืชทั่วประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำรับมือฤดูแล้ง
โครงการ “คืนคลองใส” ของกรมชลประทานเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่มุ่งเน้นการบำรุงรักษาและฟื้นฟูแหล่งน้ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างผักตบชวาและวัชพืชต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและประสิทธิภาพการระบายน้ำอย่างรุนแรง การแพร่กระจายของผักตบชวาในปริมาณมากไม่เพียงแต่ขัดขวางการไหลเวียนของน้ำ แต่ยังลดปริมาณออกซิเจนในน้ำ ส่งผลเสียต่อสัตว์น้ำ และทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว กรมชลประทานจึงเล็งเห็นความจำเป็นในการจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อให้แหล่งน้ำสามารถรองรับและบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูแล้งที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติมีจำกัด การระบายน้ำที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการขาดแคลนน้ำ
การดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้การกำจัดเป็นไปอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด การใช้เครื่องจักรกลหนักในการเก็บเกี่ยวและขนย้ายผักตบชวาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแหล่งน้ำขนาดใหญ่และมีปริมาณผักตบชวาหนาแน่น ในขณะที่แหล่งน้ำขนาดเล็กอาจใช้แรงงานคนและอุปกรณ์พื้นฐาน การบริหารจัดการผักตบชวาที่ถูกกำจัดออกไปก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญ โดยมีการนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น การนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือเชื้อเพลิงชีวมวล เพื่อลดปริมาณขยะและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัชพืชเหล่านี้ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
นอกจากประโยชน์ด้านการระบายน้ำและการเตรียมรับมือภัยแล้งแล้ว โครงการ “คืนคลองใส” ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โหล่งน้ำที่สะอาดและมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นจะช่วยสนับสนุนการทำประมงพื้นบ้าน การเพาะปลูกพืชริมน้ำ และเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้าง景觀ที่สวยงาม กระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชนต่างๆ ซึ่งจะนำมาซึ่งรายได้และโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในท้องถิ่น การพัฒนาแหล่งน้ำอย่างยั่งยืนจึงเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางน้ำให้กับประเทศในระยะยาว
การดูแลรักษาแหล่งน้ำเป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ เพราะผักตบชวาและวัชพืชมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การมีส่วนร่วมของประชาชนในการรักษาสภาพแวดล้อมทางน้ำ เช่น การไม่ทิ้งขยะลงในแหล่งน้ำ และการช่วยกันเฝ้าระวังการแพร่กระจายของวัชพืช ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้โครงการประสบความสำเร็จและยั่งยืนอย่างแท้จริง การสร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึกในการอนุรักษ์แหล่งน้ำให้กับทุกภาคส่วน จะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น
สรุปข่าวทั้งหมด
สรุปได้ว่า กรมชลประทานได้เดินหน้าอย่างเต็มกำลังในโครงการ “คืนคลองใส” เพื่อกำจัดผักตบชวาและวัชพืชทั่วประเทศ มุ่งเป้าหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ แต่ยังส่งผลดีต่อระบบนิเวศแหล่งน้ำคุณภาพชีวิตของประชาชน และโอกาสทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ตลอดจนการนำเทคโนโลยีและวิธีการจัดการที่เหมาะสมมาใช้ จะเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาแหล่งน้ำให้สะอาดและมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งจะสร้างความมั่นคงทางน้ำให้กับประเทศและชุมชนในทุกภูมิภาค
