สภานายจ้างฯ ชงรัฐบาลเร่งปั้น วิศวกรเทคโนโลยี หัวใจดันเศรษฐกิจไทยเติบโต

สภานายจ้างฯ จี้รัฐบาลแก้ปัญหาสมองไหล เร่งผลิตบุคลากรคุณภาพสูง

สภานายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (ECOT) ได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ เรียกร้องให้เร่งกำหนดนโยบายและมาตรการส่งเสริมการผลิตบุคลากรด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดยชี้ว่าการขาดแคลนแรงงานทักษะสูงในสาขานี้กำลังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว

ข้อเสนอดังกล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพัฒนา “วิศวกรเทคโนโลยี” ที่มีความรู้ความสามารถสอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ดิจิทัล, อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ยุค 4.0 การแก้ปัญหาดังกล่าวจึงไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนบัณฑิต แต่ต้องมุ่งเน้นที่คุณภาพและทักษะที่พร้อมใช้งานได้ทันที

ประเด็นสำคัญที่สภานายจ้างฯ นำเสนอ

ข้อเสนอของสภานายจ้างฯ มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งในระบบการศึกษาและตลาดแรงงาน โดยมีประเด็นหลักดังนี้:

• ความต้องการเร่งด่วน: ภาคอุตสาหกรรมกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว แต่การผลิตบุคลากรที่มีทักษะด้านดิจิทัล, AI, และระบบอัตโนมัติยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
• ปฏิรูปการศึกษา: เสนอให้มีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาให้ทันสมัย เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง (Work-integrated Learning) และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชน
• มาตรการจูงใจ: รัฐบาลควรมีมาตรการทางภาษีหรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพื่อจูงใจให้บริษัทเอกชนลงทุนในการพัฒนาทักษะ (Reskilling/Upskilling) ให้กับพนักงานปัจจุบัน
• ดึงดูดผู้มีความสามารถ: สร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงานของบุคลากรทักษะสูง ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันปัญหาสมองไหลและดึงดูดผู้เชี่ยวชาญเข้าสู่ประเทศ

ภาพจากเหตุการณ์/พื้นที่เกี่ยวข้อง

ความเชื่อมโยงและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

การลงทุนในการ “ปั้นวิศวกรเทคโนโลยี” ตามข้อเสนอของสภานายจ้างฯ ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญต่ออนาคตของประเทศ หากรัฐบาลตอบสนองและผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และยกระดับประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ในทางกลับกัน หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ประเทศไทยอาจสูญเสียโอกาสในการเติบโตและถูกทิ้งห่างจากคู่แข่งในภูมิภาคที่กำลังพัฒนาบุคลากรด้านนี้อย่างเข้มข้น