AWC เปิดตัวโครงการใหม่ชื่อ “สกายฟลาเยอส์” ที่สถานที่ย่านเอเชียทีค ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวใหม่ที่นักท่องเที่ยวและชาวกรุงเทพฯ รอคอยเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่แตกต่างด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ริมแม่น้ำ ผู้บริหารของ AWC เผยว่าการลงทุนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาสถานที่ที่จะดึงดูดผู้เยี่ยมชมและนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและทำให้เอเชียทีคเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น
ประเด็นสำคัญจาก: AWC เปิด สกายฟลาเยอส์ ที่เอเชียทีค แลนด์มาร์กท่องเที่ยวใหม่ริมเจ้าพระยา
การเปิดโครงการ “สกายฟลาเยอส์” เป็นการผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ AWC โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา สถานที่นี้ถูกออกแบบเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสกับมุมมองที่สวยงามของเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายจากการวางแผนที่รอบคอบ ภายในโครงการยังมีจุดชมวิวที่สูงเป็นพิเศษที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวรอบๆ ได้ถึง 360 องศา ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและการท่องเที่ยวในเมือง
AWC ยังได้มีการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนหลายแห่งเพื่อทำให้โครงการนี้เป็นจริง มีการร่วมกันดำเนินโครงการด้านการขนส่งสาธารณะ ทั้งในส่วนของการเดินทางทางน้ำและบนบกเพื่อให้ถึงเอเชียทีคได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมและงานเติมชีวิตชีวาตลอดปีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น การแสดงศิลปะ ไลฟ์แสดงสด และงานเทศกาลอาหารที่เน้นความหลากหลายทางวัฒนธรรม
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
หนึ่งในไฮไลต์ของโครงการ “สกายฟลาเยอส์” คือการสร้างประสบการณ์แบบใหม่ให้กับผู้ที่มาเยือนได้สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมในลักษณะที่ยั่งยืน AWC มีการวางแผนในการใช้พลังงานทดแทนและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
AWC ยังได้สร้างพื้นที่สาธารณะที่เปิดโอกาสให้กับศิลปินและผู้ที่สนใจสามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทั้งจัดทำงานที่เป็นการรวมพลังชุมชนเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีจุดบริการทางน้ำที่จะให้ครอบครัวและกลุ่มเพื่อนสามารถเข้าถึงและทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน
สรุปข่าวทั้งหมด
สรุปได้ว่าการเปิดตัว “สกายฟลาเยอส์” ของ AWC ที่เอเชียทีค เห็นได้ว่ามุ่งหมายที่จะเป็นหนึ่งในจุดดึงดูดที่สำคัญริมเจ้าพระยา โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นแลนมาร์กการท่องเที่ยวใหม่ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนและทันสมัย โดยการผสมผสานเทคโนโลยีและการรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ด้วยกัน ขณะที่ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนจะช่วยให้การพัฒนามีความรวดเร็วและมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
