
ศูนย์วิจัยกสิกร เผยแพร่การวิเคราะห์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ของประเทศไทยในขณะนี้ ซึ่งประสบกับพายุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2025 นี้ โดยน้ำท่วมที่รุนแรงได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน พื้นที่เพาะปลูก แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจในท้องถิ่นเป็นวงกว้าง
ประเด็นสำคัญจาก: ศูนย์วิจัยกสิกร คาด น้ำท่วมใต้ ทุบเศรษฐกิจพังไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท
น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของประเทศไทยนับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในหลายปีที่ผ่านมา โดยสภาพอากาศที่แปรปรวนได้นำมาซึ่งน้ำหลากและน้ำฝนที่ท่วมท่วมหลายจังหวัด การคำนวณเบื้องต้นของศูนย์วิจัยกสิกรระบุว่าผลกระทบดังกล่าวอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจลดลงจากผลผลิตการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย และการหยุดชะงักของการทำธุรกิจในหลายภาคส่วน
ปริมาณน้ำฝนที่มากเกินกว่าพื้นที่สามารถระบายน้ำได้นั้นส่งผลให้ระบบสาธารณูปโภคหลายแห่งต้องถูกยับยั้งชั่วคราว พื้นที่ชุมชนที่ตั้งอยู่ในจุดต่ำและพื้นที่เสี่ยงต่างได้รับผลกระทบ ทั้งถนนสายหลักและเส้นทางคมนาคมหลายแห่งถูกตัดขาด ทำให้การช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและการส่งต่อสินค้าไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ศูนย์วิจัยกสิกรยังได้คาดการณ์ว่า ปัญหาน้ำท่วมที่กำลังประสบอยู่นี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศลดลงในไตรมาสสุดท้ายของปี ปริมาณการผลิตที่ลดลงและการสูญเสียรายได้ในภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้สำคัญของภาคใต้ อาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะฟื้นตัวได้ เท่ากับเศรษฐกิจในหลายจังหวัดมีแนวโน้มจะประสบปัญหารุนแรงต่อไป
ในด้านการเกษตร พื้นที่เพาะปลูกหลายแสนไร่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เกษตรกรหลายรายต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนจากรัฐบาลทั้งในรูปเงินทุนและอุปกรณ์ทางการเกษตรเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ เกษตรกรบางรายยังคงเผชิญกับการสูญเสียผลผลิตก่อนหน้านี้ที่ยังไม่สมบูรณ์เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
สรุปข่าวทั้งหมด
สรุปได้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและระบบสาธารณูปโภคเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและประเทศโดยรวม รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องเร่งให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และมีแผนฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เศรษฐกิจและสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนสามารถกลับสู่สภาพปกติได้โดยเร็ว

