
ก.ล.ต. ได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มสแกมเมอร์ที่แอบอ้างหลอกลงทุน หลังมีการพบเบาะแสการหลอกลวงกว่า 8,000 เคสจากการสำรวจในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการหลอกลวงเหล่านี้มักจะใช้เทคนิคทางออนไลน์ในการดึงดูดผู้เสียหายให้ลงทุนในโครงการปลอมที่สัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าปกติ การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สำนักงาน ก.ล.ต. ต้องเร่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับนักลงทุนและให้ความรู้ความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนที่ไม่ระมัดระวัง
ประเด็นสำคัญจาก: ก.ล.ต. เตือนระวัง สแกมเมอร์ หลังพบเบาะแสหลอกลงทุน 8,000 เคส
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับโครงการหลอกลวงนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยสแกมเมอร์ใช้โซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เพื่อเข้าถึงเหยื่อ การที่มีคนมากกว่า 8,000 รายเกี่ยวข้องในเบาะแสนี้ส่งผลให้ ก.ล.ต. ต้องเร่งดำเนินการแสวงหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อจับกุมและยับยั้งการดำเนินการของกลุ่มเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีการเข้าร่วมของหน่วยงานต่างๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยและหน่วยงานรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อร่วมกันสร้างเกราะป้องกันข้อมูลและการเงินของประชาชนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ในมุมมองของผลกระทบที่กว้างขึ้น การเพิ่มจำนวนของการหลอกลวงดังกล่าวอาจทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน และส่งผลให้เกิดความหวาดระแวงในวงการการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ทำให้การรักษาความปลอดภัยและความเชื่อถือทางการเงินเป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งขึ้นสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
ตามข้อมูลที่ได้จาก ก.ล.ต., เทคนิคที่กลุ่มสแกมเมอร์ใช้มักเกี่ยวข้องกับการสร้างเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ โดยมุ่งเน้นที่การนำเสนอผลตอบแทนที่สูงโดยไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการแอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการลงทุนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของโครงการ จึงต้องการให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนการลงทุนเสมอ
จากการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า วิธีการที่ใช้กันมากยังรวมถึงการส่งอีเมลหรือข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นแชทชื่อดัง โดยแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานหรือบริษัทการลงทุนที่มีชื่อเสียง และหลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งหลายครั้งเงินเหล่านี้จะถ่ายโอนออกจากประเทศ ทำให้การติดตามและนำเงินกลับมามีความยากลำบากขึ้น
สรุปข่าวทั้งหมด
การหลอกลวงลักษณะนี้ที่แพร่หลายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่การลงทุนออนไลน์เริ่มได้รับความนิยมมาก ทำให้ ก.ล.ต. ต้องดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อปกป้องนักลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นในระบบการเงินต่อไป ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบแหล่งข้อมูลการลงทุนอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของกลุ่มสแกมเมอร์ ซึ่งการสอดส่องพฤติกรรมเหล่านี้ร่วมกันจะสามารถช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

