กสทช. เดินหน้าเข้มงวดมาตรการควบคุมสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังพบปัญหาสัญญาณล้ำข้ามเขตแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูลรั่วไหล ล่าสุดมีคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ทุกค่ายต้องใช้เทคนิค “Cell Radius” เพื่อตีกรอบพื้นที่สัญญาณไม่ให้ขยายออกนอกอาณาเขตของประเทศไทย
มาตรการใหม่นี้ถือเป็นการขยับเชิงนโยบายสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาการเข้าถึงสัญญาณต่างประเทศโดยไม่ตั้งใจของประชาชนในพื้นที่ชายแดน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านการสื่อสาร ความปลอดภัยของข้อมูล และการคิดค่าบริการที่ไม่เป็นธรรม
เครดิตภาพ : ไทยรัฐ
มาตรการเข้มควบคุมสัญญาณข้ามแดน – ปกป้องผู้บริโภคและความมั่นคงของประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ซึ่งบางจุดสัญญาณมือถือไทยอาจล้ำเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว หรือกัมพูชา
เทคนิค Cell Radius ที่ถูกนำมาใช้ เป็นกระบวนการควบคุมระยะของคลื่นความถี่ให้เหมาะสมกับขอบเขตทางภูมิศาสตร์ โดยระบบจะปรับระยะการกระจายของคลื่นจากเสาโทรคมนาคมอัตโนมัติให้ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ในประเทศเท่านั้น ช่วยลดปัญหาการสื่อสารผิดพลาด และลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางดิจิทัล
เครดิตภาพ : ไทยรัฐ
ผู้ให้บริการต้องเร่งปรับระบบ – หากฝ่าฝืนอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต
กสทช. ยังได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ให้บริการทุกค่าย เช่น AIS, TRUE, DTAC และ NT ให้ดำเนินการตรวจสอบสัญญาณทุกจุดชายแดนภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมรายงานผลการแก้ไขกลับมายัง กสทช. เพื่อประกอบการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กสทช. ระบุว่า หากพบการเพิกเฉย ไม่ดำเนินการ หรือปล่อยให้มีการรั่วไหลของสัญญาณข้ามแดน จะถือเป็นการละเมิดเงื่อนไขใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งมีบทลงโทษตั้งแต่การปรับเงินรายวัน ไปจนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำว่า การดูแลสัญญาณในพื้นที่ชายแดนถือเป็นเรื่อง “มั่นคงระดับชาติ” ไม่ใช่เพียงประเด็นทางเทคนิค

เครดิตภาพ : ไทยรัฐ
กสทช. เดินหน้าปรับมาตรฐานสื่อสารปลอดภัยทั่วประเทศ
มาตรการ “Cell Radius” ของ กสทช. เป็นอีกก้าวสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคและเสริมความมั่นคงทางการสื่อสารของไทย โดยในอนาคต กสทช. มีแผนต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีควบคุมคลื่นและโครงข่ายโทรคมนาคมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อรองรับระบบ 5G และการสื่อสารไร้สายยุคใหม่อย่างปลอดภัย
ประชาชนในพื้นที่ชายแดนสามารถมั่นใจได้ว่า การใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือจะไม่ถูกเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ตั้งใจอีกต่อไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของภาครัฐในการ “สร้างระบบโทรคมนาคมที่มั่นคง ปลอดภัย และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย”

