
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้ง นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเร่งรัดและผลักดันการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่จำเป็นและส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นการแสดงเจตจำนงของรัฐบาลในการให้ความสำคัญกับการปฏิรูปกฎหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดินและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งนายธงทอง จันทรางศุ ถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์สูงในด้านกฎหมาย การเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้จึงเป็นที่คาดหวังว่าจะสามารถนำพาคณะกรรมการไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างมีประสิทธิผล โดยการทำงานจะมุ่งเน้นไปที่การพิจารณาและเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศและคุณภาพชีวิตของประชาชน
ประเด็นสำคัญจาก: “อนุทิน” ตั้ง “ธงทอง จันทรางศุ” เป็นประธานปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน
การแต่งตั้ง นายธงทอง จันทรางศุ ให้เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลปัจจุบันที่ต้องการผลักดันการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศในทุกมิติ การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลราชการส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะลดภาระและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและภาคธุรกิจผ่านการปรับปรุงกฎหมายที่ไม่ทันสมัย หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ การปฏิรูปกฎหมายดังกล่าวจึงมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่กฎหมายของกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง กรม อื่นๆ ที่มีผลกระทบในวงกว้างต่อสังคมไทย
นายธงทอง จันทรางศุ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักกฎหมายและนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในหลายสาขา รวมถึงกฎหมายมหาชนและกฎหมายปกครอง ประสบการณ์ทั้งในฐานะอดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และการเป็นอาจารย์สอนกฎหมายในสถาบันการศึกษาชั้นนำ ทำให้ท่านมีความเข้าใจในบริบทของกฎหมายไทยเป็นอย่างดี ทั้งในมิติของการออกกฎหมาย การบังคับใช้ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคปฏิบัติ การที่ท่านเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้จึงเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญนี้ให้สำเร็จลุล่วงอย่างเป็นรูปธรรม โดยคณะกรรมการจะมีบทบาทในการรวบรวมปัญหา วิเคราะห์ข้อจำกัด และเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขกฎหมายอย่างรอบด้าน เพื่อให้กฎหมายเหล่านั้นมีความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ
รายละเอียดต่อยอดจากประเด็นข้างต้น
คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนภายใต้การนำของนายธงทอง จันทรางศุ จะมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการพิจารณากฎหมายจำนวนมากที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขหรือปรับปรุง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารราชการแผ่นดินและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ตัวอย่างของกฎหมายที่อาจจะอยู่ในขอบเขตการพิจารณา ได้แก่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตต่างๆ ที่ซับซ้อนและล่าช้า, กฎหมายที่สร้างภาระให้กับประชาชนและผู้ประกอบการเกินความจำเป็น รวมถึงกฎหมายที่ล้าสมัยหรือไม่สอดคล้องกับเทคโนโลยีและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การทำงานของคณะกรรมการนี้จะไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การแก้ไขข้อบทกฎหมายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงกระบวนการหรือระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรมมากขึ้น
นอกจากนี้ การปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วนยังคาดว่าจะครอบคลุมถึงการส่งเสริมธรรมาภิบาลและความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ โดยการทบทวนกฎหมายที่อาจเปิดช่องให้เกิดการทุจริต หรือกฎหมายที่ขาดความชัดเจนจนนำไปสู่การตีความที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจสร้างปัญหาในการปฏิบัติ การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้จึงมิใช่เพียงแค่การ “ปรับแก้” แต่เป็นการ “ปฏิรูป” อย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบกฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่ากฎหมายของประเทศมีความเป็นธรรม เข้าถึงได้ และเป็นประโยชน์ต่อทุกคนในสังคม การดำเนินงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพภายใต้การนำของนายธงทอง จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความสำเร็จในการปฏิรูปกฎหมายครั้งนี้
สรุปข่าวทั้งหมด
การแต่งตั้ง นายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน โดย “อนุทิน” ชาญวีรกูล ถือเป็นก้าวสำคัญของรัฐบาลในการเร่งรัดการปรับปรุงกฎหมายของประเทศให้ทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน การเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์อย่างนายธงทอง มาทำหน้าที่นี้สะท้อนถึงความจริงจังและความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาที่กฎหมายล้าสมัยหรือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ กิจกรรมของคณะกรรมการจะมุ่งเน้นการพิจารณากฎหมายที่มีผลกระทบกว้างขวางต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อลดความซับซ้อน ลดภาระ และส่งเสริมธรรมาภิบาล การปฏิรูปนี้คาดว่าจะนำไปสู่การยกอในวงกว้างต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศในระยะยาว ประชาชนจึงควรติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานของคณะกรรมการชุดนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากการปฏิรูปกฎหมายนี้.

